แชร์ประสบการณ์ขายของออนไลน์

ทำงานหาเงินผ่านออนไลน์

ในช่วงวิกฤตของโรคระบาด เชื่อว่าปัญหาใหญ่ของคนส่วนใหญ่คือ ไม่มีรายได้ บางคนรายได้ลดลง แต่บางคนถึงกับตกงาน แต่อย่าเพิ่งท้อ เพราะบทความนี้ จะมาแนะนำประสบการณ์จริงในการขายของออนไลน์ โดยจะเล่าตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนกระทั่งขายของได้

ขายอะไรดี?

เชื่อว่าเป็นคำถามต้นๆ ของคนที่คิดจะทำการขาย แต่อย่าเพิ่งคิดให้ไกลตัว ให้เริ่มต้นจากสิ่งใกล้ๆ ตัวก่อน อย่างเช่น ครอบครัวทำกิจการหรือไม่ เรามีความรู้ความชำนาญด้านไหน (เช่น สอนหนังสือ ทำอาหาร ทำขนม ทำเบเกอรี่ ชอบปลูกต้นไม้ เป็นต้น) สิ่งต่างๆ เหล่านี้ สามารถนำมาใช้สำหรับการเงินออนไลน์ได้

สิ่งหนึ่งที่อยากแนะนำสำหรับการขายสินค้าออนไลน์ นั่นคือ ให้เริ่ม "ทำจากสิ่งที่ชอบและรัก" เพราะจะทำให้เรามีความพยายามมากขึ้น และสนุกกับการทำงาน ส่วนตัว ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ให้คิดว่า มันคือเรื่องสนุกและไม่ได้คิดว่าถูกบังคับ ดังนั้น ไม่ว่าทำอะไรก็ตาม จงสนุกกับสิ่งที่ทำ

เตรียมตัวก่อนขายของออนไลน์

• สินค้า (Product)
• ระบบที่ใช้ในการขายของออนไลน์ (System)
• วิธีบรรจุและการขนส่ง (Packaging & Transportation)

สินค้า (Product)

บทความนี้ จะเล่าประสบการณ์การขายของออนไลน์ โดยผู้เขียนได้เริ่มต้นจากสิ่งที่ชอบ นั่นคือ ปลูกต้นไม้ และต้นไม้ที่ว่าก็คือ "แคคตัสหรือกระบองเพชร"

เกริ่นนำให้รู้จักสักนิดก่อน แคคตัสหรือกระบองเพชร เป็นไม้ที่มีความหลากหลายมาก มีสายพันธุ์นับเป็นพันเป็นหมื่น สามารถผสมพันธุ์เพื่อให้ต้นใหม่ที่มีความแตกต่างจากต้นพ่อแม่ได้ ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า "ลุ้น" ได้ตลอดเวลา 

แคคตัสที่ได้ไม้แปลก ไม่ว่าจะเป็นต้นแปลกๆ หรือมีสีแตกต่างจากต้นพ่อแม่พันธุ์ ก็จะสามารถขายได้ในราคาที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ไม้หายาก ก็เป็นอีกประเภทหนึ่งที่ทำราคาได้เป็นอย่างดีเช่นกัน 

แคคตัสหรือกระบองเพชร เมื่อมีขนาดเล็กจะมีราคาถูก ถ้าโตขึ้นราคาก็แพงขึ้น  นอกเหนือจากต้นแล้ว "เมล็ด" ก็สามารถปลูกให้ได้เมล็ดและนำมาจำหน่ายได้เช่นกัน

สรุปทริคการขายแคคตัสหรือกระบองเพชร

• ซื้อเมล็ดมาเพาะ (ต้องใช้เวลาเป็นปี เหมาะสำหรับการวางแผนระยะยาว)
• ซื้อต้นขนาดเล็กมาปลูกให้โต แล้วขาย ประมาณ 2-3 เดือน (กำไรงาม)  
• ซื้อมาในราคาขายส่ง สะดวก ไม่ต้องรอ ขายได้เลย (กำไรอาจไม่มาก)
• ซื้อต้นใหญ่พ่อแม่พันธุ์ พร้อมออกดอกและเมล็ด เพื่อขายเมล็ด
• ซื้อต้นใหญ่พ่อแม่พันธุ์ มาผสมเอง แต่ต้องอาศัยความชำนาญ แต่สามารถเรียนรู้ได้

ระบบที่ใช้ในการขายของออนไลน์ (System)

แนะนำว่า ไม่ต้องไปคิดให้ปวดหัว ใช้บริการออนไลน์ที่เขามีให้ใช้ดีกว่า เพราะถ้าจะทำเอง คงไม่คุ้มแน่นอน ส่วนตัวได้ทดลองใช้ของ "Shopee" หลังจากใช้งานมาได้สักพัก ก็บอกได้เลยว่า น่าใช้มาก ของเจ้าอื่นยังไม่ได้ทดลอง จึงไม่สามารถบอกได้

ลักษณะการขายของ Shopee แค่เปิดบัญชีก็ขายของได้แล้ว โดยเราสามารถตั้งราคาขายเองได้ (แต่ควรสำรวจตลาดก่อนว่า คนอื่นขายราคาเท่าไหร่)  โดยราคาขาย จะมีการคิดค่าคอมมิสชั่น และบวกด้วยค่าจัดส่ง ค่าธรรมเนียม ซึ่งทางผู้ซื้อจะเป็นคนจ่ายเอง 

ข้อควรทราบ ราคาขาย หลังจากหักค่าธรรมเนียมต่างๆ ราคาขายอาจได้รับสูงขึ้น แต่บางครั้งก็ได้รับน้อยลง คงต้องตรวจสอบเป็นช่วงเวลา เพราะอาจมีโปรโมชั่นเข้ามาแทรก

วิธีขายของผ่าน Shopee แบบกระชับ

• ดาว์นโหลดแอป Shopee
• ติดตั้งและลงทะเบียน
• แตะเมนู "ฉัน" ด้านล่างล่าง
• แตะเมนู "ร้านของฉัน" มุมบนซ้าย
• เริ่มใส่รายละเอียดสินค้า "เพิ่มสินค้าใหม่"
• รูปภาพ แนะนำให้ใส่มากๆ เข้าไว้
• ชื่อสินค้า
• รายละเอียดสินค้า
• หมวดหมู่ (ต้องใส่ให้ถูกหมวดหมู่)
• ราคา  (ราคาที่เราต้องการขาย)
• คลัง (จำนวนสินค้าที่มีขาย)
• ค่าจัดส่ง (ประมาณการน้ำหนักสินค้า)
• แตะลงขาย เริ่มขายได้ทันที

นอกจากนี้ เราควรหมั่นศึกษาเทคนิคการขายและการตลาดของ Shopee ซึ่งจะมีการแนะนำให้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เจ้าของร้านได้ทั้งความรู้และรายได้ที่เพิ่มขึ้น และอีกอย่างที่น่าสนใจ นั่นคือ Shopee รองรับการใช้งานบนคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย ทำให้สะดวกในการอัพโหลดและแก้ไขข้อมูลการขาย

วิธีบรรจุและการขนส่ง (Packaging & Transportation)

เรื่องนี้ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ เพราะการส่งสินค้าที่มีชีวิตอย่างต้นไม้ มีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาและเข้าใจในรายละเอียดว่าา ควรจะจัดส่งอย่างไร ไม่ให้ต้นไม้เน่า หรือได้รับการกระทบกระเทือนระหว่างการขนส่ง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ เวลาคำนวณราคาขาย เราจำเป็นจะต้องบวกค่ากล่องและอุปกรณ์กันกระแทกเข้าไปด้วย

ส่วนเรื่องการขนส่ง ถ้าเป็น Shopee ก็สามารถใช้บริการ Drop off หรือให้เจ้าหน้าที่ของ Shopee มาได้ถึงที่บ้านได้ ง่าย สะดวกและประหยัดเวลาได้เป็นอย่างดี สำหรับรายละเอียดเรื่อง Drop Off สามารถหาอ่านได้เพิ่มเติมภายในเว็บไซต์แห่งนี้

ข้อควรระวังการขายต้นไม้ออนไลน์

เนื่องจากต้นไม้มีชีวิต และต้นไม้บางสายพันธุ์อาจมีขนาดใหญ่ หรือมีกิ่งก้านที่อาจทำให้เกิดความเสียหายระหว่างการขนส่งได้ง่าย ดังนั้น การเลือกบรรจุหีบห่อ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ  และเราไม่สามารถควบคุมคุณภาพในการจัดส่งได้ บางครั้ง ผู้จัดส่ง อาจมีการโยนหรือคว่ำกล่อง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ง่าย ทางที่ดี ควรเขียนข้อความเพื่อให้ผู้จัดส่งระวัง ประมาณว่า "ห้ามโยน ต้นไม้สด" ประมาณนี้ ถึงแม้อาจจะช่วยไม่ได้มากนัก แต่ก็ยังดีกว่า ไม่ได้ทำอะไรเลย..